วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม พ.ศ. 2559

แสงสีกับการมองเห็น
     สีต่าง ๆ จะเปลี่ยนไปตามสภาพแวดล้อมของสี และยังขึ้นอยู่สภาพของแสงด้วยโดยที่ในที่มี
แสงว่างจัด ๆ  สีจะดูอ่อนลงในที่ที่มีแสงสว่างน้อยลง  สีก็จะเข้มขึ้นด้วยและในที่ไม่มีแสงสว่างเลย
เราจะมองเห็นสีต่าง ๆ  เป็นสีดำ ถึงแม้จะมีความเข้มของแสงเหมือนกันแต่ถ้ามีสภาพแวดล้อมของ


สีแตกต่างกัน เช่น สีแสดที่อยู่บนพื้นสีดำ จะดูอ่อนกว่าสีแสดที่อยู่บนพื้นสีขาวและสีที่อยู่บนพื้นสีต่าง ๆ กันก็จะดูมีความเข้มต่างกัน  สีที่บนพื้นสีเข้มจะมองเห็นเด่นชัดกว่าสี ที่อยู่บนพื้นสีสว่าง เนื่องจากสีดำไม่สะท้อนแสงสีต่าง ๆ ทำให้ไม่รบกวนการมองเห็น
      
    
       การมองเห็นของสีตรงข้าม   การใช้สีตรงข้ามกันมาใช้ร่วมกันโดยนำมาวางอยู่เคียงคู่กัน
ทั้งสองสีจะส่งผลต่อคู่สีอีกสีหนึ่ง  เราจะเห็นว่า สีเขียวที่อยู่บนสีแดงจะดูมีขนาดใหญ่กว่าสีแดง
ที่อยู่บนสีเขียว  ทั้งสองสีต่างหักล้างค่าความเข้มของสีซึ่งกันและกัน จะทำให้ไม่ดูสดใสเท่าที่ควร
ปรากฎการณ์อีกอย่างหนึ่งของสีตรงข้าม   คือ 
ภาพติดตา ( After Image )  โดยการจ้องมองสีใด
สีหนึ่งที่สดจัด ในที่มีแสงสว่างจ้าสักครู่ จากนั้นไปจ้องมองที่กระดาษสีขาว  จะปรากฎสีตรงข้าม
ของสีนั้น ๆ ขึ้นที่กระดาษสีขาวซึ่งเกิดจากอิทธิพลความแรงของสี

       ภาพติดตาอีกลักษณะหนึ่ง ก็คือสีขาวกับสีดำ  จากภาพเส้นตารางสีขาวบนพื้นสีดำ จะมอง เห็นจุดตัดแนวตั้งกับแนวนอน ของเส้นตารางสีขาว มีสีเทา ๆ  ลักษณะเช่นนี้เกิดจากอิทธิพลของสีตรงข้ามที่อยู่ข้างเคียงคือสีดำ  และรูปสีขาวบนพื้นดำ จะดูใหญ่กว่ารูปสีดำที่อยู่พื้นขาว 



คุณลักษณะของสี
การรู้จักคุณลักษณะของสี ช่วยให้ผู้ทำงานศิลปะสามารถสร้างผลงานที่มีสีสีนต่างๆ และสามารถจัดโครงสร้างสีตามวัตถุประสงค์ที่ตนเองต้องการได้
1. สีแท้ ( HUE )
  หมายถึงคุณสมบัติที่แสดงลักษณะของตัวมันเองว่าเป็นสีอะไร เช่น สีแดง สีเขียว สีเหลือฃเป็นต้นสีที่ไม่ได้ผสมสีขาว ดำ และสีเทา สีแท้ ที่ปรากฏในวงสี ได้แก่ สีทั้ง 12 สี ในวงสีนั้นคือ แม่สี , สีขั้นที่ 2 ( สีที่เกิดจากการผสมของแม่สี ) และสีขั้นที่ 3  ( สีที่เกิดจากการผสมระหว่างแม่สี กับสีขั้นที่ 2 )
2. น้ำหนัก  ( Value )
         น้ำหนักสีหมายถึงน้ำหนักอ่อนแก่ เฉพาะตัวของสี อาจจะใกล้เคียง  เหมือนกันหรือต่างกัน     น้ำหนักอ่อนแก่เฉพาะตัวนี้เรียกว่า น้ำหนักปกติ ( normal ) โดยเปรียบเทียบกับน้ำหนักขาวดำ
ความสำคัญของสี
1. ใช้ในการจำแนกสิ่งต่าง ๆ เพื่อให้เห็นชัดเจน 

2. ใช้ในการจัดองค์ประกอบของสิ่งต่าง ๆ เพื่อให้เกิดความสวยงาม กลมกลืน เช่น การแต่งกาย  การจัดตกแต่งบ้าน
3
. ใช้ในการจัดกลุ่ม พวก คณะ ด้วยการใช้สีต่าง ๆ เช่น คณะสี  เครื่องแบบต่าง ๆ
4
. ใช้ในการสื่อความหมาย เป็นสัญลักษณ์ หรือใช้บอกเล่าเรื่องราว
5
. ใช้ในการสร้างสรรค์งานศิลปะ เพื่อให้เกิดความสวยงาม สร้างบรรยากาศ  สมจริงและน่าสนใจ
6
. เป็นองค์ประกอบในการมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ของมนุษย์ 
วรรณะของสี
สีได้ถูกแบ่งออกเป็น 2 วรรณะด้วยกัน คือ
1. วรรณะร้อน ( Warm Tone
2. วรรณะเย็น ( Cold Tone )




 สีร้อน คือ สีที่ดูแล้วให้ความรู้สึกร้อน              


 สีเย็น คือ สีที่ดูแล้วรู้สึกเย็น
  แล้วแต่ว่าจะอยู่กับลกลุ่มสีใด  การใช้สีในวรรณะเดียวกันจะทำให้รู้สึกกลมกลืนกัน การใช้สีต่างวรรณะจะทำให้เกิดความแตกต่างขัดแย้ง

แม่สี ( Primaries )

     สีต่าง ๆนั้นมีอยู่มากมาย แหล่งกำเนิดของสีและวิธีการผสมสีตลอดจนความรู้สึกที่มีต่อสีของมนุษย์แต่ละกลุ่มย่อมไปเหมือนกันสีต่างๆ ที่ปรากฏ นั้นย่อมเกิดขึ้นจากแม่สีในลักษณะที่แตกต่างตากชนิดที่ประเภทของสีนั้น ๆ

     สีเป็นปรากรณ์ธรรมชาติที่น่ามหัศจรรย์ สีมีอยู่ในแสงแดด เป็นคลื่นแสงชนิดหนึ่ง จะปรากฎให้เห็นเมื่อแสงส่งผ่านละอองน้ำในอากาศและเกิดการหักเหทอเป็นสีรุ้งออกมา 7 สี คือ ม่วง ม่วงน้ำเงิน น้ำเงิน เขียว เหลือง ส้ม และแดง

แม่สีวัตถุธาตุ ( Pigmentary primaries )
     แม่สีวัตถุธาตุนั้นหมายถึง วัตถุที่มีสีอยู่ในตัว   สามารถนำมาระบาย ทา ย้อม และผสม ได้เพราะมีเนื้อสี  และสีเหมือนตัวเอง เรียกอีกอย่างหนึ่งว่า แม่สีของช่างขียน  สีต่างๆจะเกิดขึ้นมาอีกมากมาย ด้วยการผสมของแม่สีซึ่งมี  อยู่ด้วยกัน 3 สีคือ สีแดง สีเหลือง และสีน้ำเงิน






ทฤษฎีสี

วิวัฒนาการของสี
สีเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างหนึ่งในการดำรงชีวิต ซึ่งมนุษย์รู้จัก สามารถนำมาใช้ให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจำวันมาตั้งแต่ดึกดำบรรพ์
       ในอดีตกาลมนุษนย์ได้นำเอาสีต่าง ๆ มาใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวางโดยนำมาระบายลงไปบนสิ่งของ ภาชนะเครื่องใช้ หรือระบายลงไปบนรูปปั้นรูปแกะสลัก เพื่อให้รูปเด่นชัดขึ้น เพื่อใช้ถ่ายทอดเรื่องราว และมีความเหมือนจริงมากขึ้น รวมไปถึงการใช้สี ทำให้เกิดความรู้สึกถึงพลังอำนาจที่มีอยู่วาด ลงไปบนผนังถ้ำ หน้าปา ก้อนหิน เหนือสิ่งต่าง ๆ ทั้งปวง

องค์ประกอบของสี
เนื้อสี ( Pigment )   +   ส่วนผสม ( Binder )   =    สีชนิดต่าง ๆ ( Color )
สีที่มนุษย์ใช้อยู่ทั่วไป
-  สสารที่มีอยู่ตามธรรมชาติ และนำมาใช้โดยตรง หรือด้วยการสกัด ดัดแปลงบ้าง จากพืช สัตว์ ดิน แร่ธาตุต่าง ๆ
-  สสารที่ได้จากการสังเคราะห์ซึ่งผลิตขึ้นโดยกระบวนการทางเคมี เป็นสารเคมีที่มีผลิตขึ้นเพื่อให้สามารถนำมาใช้ได้ สะดวกมากขึ้น ซึ่งเป็นสีที่เราใช้อยู่ทั่วไปในปัจจุบัน
แสง เป็นพลังงานชนิดเดียวที่ให้สี โดยอยู่ในรูปของรังสี ( Ray ) ที่มีความเข้มของแสงอยู่ในช่สงที่สายตามองเห็นได้